โค้ชง้วน Surachai Jaturapattarapong โค้ชโย่ง สะสม พบประเสริฐ

โค้ชง้วน

โค้ชง้วน ทำความรู้จัก โค้ชสุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ตำนานกองกลางทัพช้างศึก ยุคดรีมทีม

โค้ชง้วน ถ้าพูดถึงยุคที่ฟุตบอลไทย เฟื่องฟูที่สุด ในภาพจำของใครหลายคน ก็ต้องยกให้ยุคดรีมทีม ซึ่งในยุคนั้น มีนักเตะทีมชาติไทย มากฝีมือ ทั้งซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, ธชตวัน ศรีปาน , ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน และที่ขาดไม่ได้

ก็คือ โค้ชง้วน สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ซึ่งนักเตะเหล่านี้ หลังจากที่แขวนสตั๊ด ก็ได้ผันตัวมาเป็น ผู้ฝึกสอนมืออาชีพ และ ฝากผลงานไว้กับ หลายสโมสรยักษ์ใหญ่ ในไทยลีก และโค้ชสุรชัย ก็ถือเป็นผู้คุมทีม ทัพช้างศึกรายที่ 25 วันนี้เราจะพาไปดูทัศนคติต่อ ฟุตบอลของ โค้ช ชลบุรี รายนี้กัน หนังออนไลน์

โค้ชง้วน

จากการเล่นกีฬาเพราะรัก สู่การเป็นเฮดโค้ชแ บบเต็มตัว

ถ้าจะพูดถึง การแข่งขันฟุตบอลในอดีตนั้น นักฟุตบอลในยุคดรีมทีม เข้ามาเล่นฟุตบอล เพราะมีความชอบในเรื่องนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ นักเตะในสมัยนั้น ก็จะให้ความสนใจ ในเรื่องการเรียนหนังสือเป็นหลัก เพราะวงการฟุตบอล ใน

ประเทศไทย ยังไม่มีการยอมรับ และ ไม่ถือว่าเป็นอาชีพนั่นเอง นักเตะในทีมทุกคน มีความชื่นชอบ เหมือนกันนั่น ก็คือรักในลูกหนัง และในขณะเดียวกัน พวกเขาก็มักจะสนิทสนมกันกับ เพื่อนร่วมทีม มีความกลมเกลียว แต่

ในปัจจุบันนักเตะหลายคน มีความคิดเป็นของตัวเอง เพราะเข้าสู่ยุคการพัฒนา ฟุตบอลจึงเป็นมากกว่ากีฬา แต่มันกลายเป็นอาชีพไปแล้ว แน่นอนว่านักเตะที่อยู่ในสนาม จึงมีความมุ่งมั่น ในการเอาชนะมากกว่า ที่จะเล่น เพื่อ

ความสนุก และ ตอบสนองความต้องการ ของตัวเองไปด้วย เพราะยิ่งมีฟอร์มที่ดี ก็จะยิ่งเป็นที่ต้องการ ของทีมยักษ์ใหญ่ แต่ในสมัยนั้นโค้ชสุรชัย คิดเพียงแค่ว่า ได้เล่นแล้วมีความสุข โค้ชดา

การเป็นผู้คุมทีมจะต้อง ใช้จิตตะวิทยามากกว่าสิ่งอื่นใด

ถ้าพูดถึงเรื่องการคุมทีม ของโค้ชสุรชัยแล้ว เขามักจะบอกเสมอว่า ต้องใช้หลักจิตวิทยา เข้าช่วยไม่ใช่เพียงแค่ ความชำนาญ ในการเล่นฟุตบอล แค่อย่างเดียว เพราะในทีมประกอบไปด้วย นักเตะที่มีหลากหลายรูปแบบ จำเป็น

ที่จะต้องบริหาร และ ดูแลให้อย่างทั่วถึง ต้องทำให้พวกเขา มีกำลังกายที่ดี และมีกำลังใจที่พร้อมที่จะลงสนาม การที่เคยเป็นนักเตะมาก่อน จึงทำให้ได้เปรียบตรง ที่ว่าสามารถสื่อสาร และ แนะนำนักเตะได้อย่าง ตรงจุดยิ่งขึ้น

และสามารถ ประเมินพรสวรรค์ ของนักเตะแต่ละคน พร้อมพัฒนาให้เขาแข็งแกร่ง ขึ้นนั่นเอง อีกทั้งเป้าหมาย ในการทำทีม ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่จะช่วยกำหนดระบบการเล่น ได้อย่างดี ต้องมองอย่าง รอบด้าน ต้องเอาใจใส่

ทุกจุดในขณะที่ ตอนเป็นนักฟุตบอลนั้น เอาใจใส่เพียงแค่การฝึกซ้อม และ หน้าที่ของตนเองก็พอ

เสน่ห์ประจำตัวของโค้ชง้วน ที่ทำให้เข้าถึงนักเตะได้ง่าย

จะว่าไปแล้วการฝึกซ้อมฟุตบอลนั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่ นำครูมาสอนนักเรียน ถ้าวิชาใดก็ตามที่มีความเครียด เป็นวิชาที่หนักเนื้อหา  หากครูสามารถอธิบาย ให้นักเรียนเข้าใจได้ง่าย และ มีความสุขในการเรียน มันก็ทำให้

นักเรียน อยากเข้าเรียนและสนุก ไปกับเราด้วย ฟุตบอล ก็เหมือนกันต้อง พยายามสรรหาสิ่งใหม่ ๆ และความตื่นเต้น มาให้นักกีฬาอยู่เสมอ ต้องใช้จิตวิทยา และลูกล่อลูกชน ในการสอน แต่ในขณะ เดียวกัน ก็ต้องสอดแทรก

แทคติกต่าง ๆ เข้าไปด้วยจึงจะทำให้พวกเขา สามารถซึมซาบได้เร็วยิ่งขึ้น นี่คือเป้าหมายหลัก ของ โค้ชโอ่ง และเป็นสิ่งที่ทำให้ โค้ชสุรชัย ได้รับการยอมรับ จากนักเตะที่ฝึกสอนทุกรุ่น

โค้ชง้วน

เป็นโค้ชที่มีมุมมองแปลกใหม่เรื่องการทำทีม

เชื่อว่าทุกครั้งที่มีการแข่งขัน ในวงการฟุตบอลไม่เป็นไป ตามเป้าที่แฟนบอลตั้งไว้ ผู้ฝึกสอนคือคนแรก ที่จะตกเป็นเป้าหมาย ในการถูกตั้งแง่ แต่สำหรับโค้ชสุรชัยแล้ว เขาบอกเลยว่า ไม่แคร์ ! เพราะมุมมองของเขาต่อลูกหนังนั้น

เชื่อว่า วงการฟุตบอลอะไร ก็เกิดขึ้นได้ อีกทั้งฟุตบอลคือ ศาสตร์การแข่งขันอย่างหนึ่ง ที่เราไม่สามารถ จะดูด้วยพริบตาเดียว แล้วตัดสินได้ว่านักเตะคนนี้ คือคนที่เก่ง อีกทั้งคนที่เก่ง ก็ใช่ว่า จะสามารถ นำมาใช้ได้อย่างพร่ำเพรื่อ

เพราะยังมีข้อจำกัด ด้านงบประมาณ และไม่เชื่อว่าการคุมทีมที่นักเตะ ขาดความพร้อม จะทำให้ ประสบความสำเร็จ ได้ต่อให้ใช้ โค้ช เวียดนาม ประวัติ ระดับโลกก็ตาม เพราะหัวใจหลัก ของการแข่งขันฟุตบอล ก็คือนักกีฬา

ที่มีทักษะ มีความต้องการ ที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ หากมี 2 สิ่งนี้ก็จะทำให้สามารถ สร้างทีมเวิร์คได้อย่างง่ายดาย ส่วนผู้ฝึกสอนนั้น จะเป็นเพียงคน ที่คอย ตีกรอบการฝึกซ้อม ตีกรอบเป้าหมายของทีม ให้มีความชัดเจน และ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีระบบการเล่นมากยิ่งขึ้น

ทีมโปรดและแนวทาง ที่นำมาปรับใช้

ไม่รู้ว่าจะเรียกว่า ทีมโปรดได้หรือเปล่า เพราะปกติแล้ว เขาจะชอบดูการทำทีม ของอาร์เซนอล เพราะสไตล์ของทีม แห่งพรีเมียร์ลีกทีมนี้ จะใช้งบประมาณที่ต่ำ แต่กลับปั้นนักเตะขึ้นสู่แนวหน้า ของวงการฟุตบอลได้ แม้จะไม่ใช่

ทีมที่อยู่ ในอันดับแนวหน้าในยุโรป คว้าแชมป์ได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่พวกเขาก็มัก จะสร้างความยากลำบาก ให้กับทีมยักษ์ใหญ่ได้เสมอ ทั้งถ้าหากจะเทียบเรื่องงบประมาณ และ องค์ประกอบอื่น ๆ แล้วอาจจะเป็นย่อยทีมเรานั้น

อยู่บ้าง และแอบหวังเล็กๆว่าในอนาคต สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะมีความกลมเกลียวมากกว่านี้ อยากให้มีการเป็นกลาง มีการแข่งขันที่มาตรฐาน เพราะสิ่งนี้จะเป็นการ ยกระดับและสร้างรากฐานที่ดี ให้กับวงการฟุตบอลในบ้านเรา

“ผมอยากให้ฟุตบอลบ้านเรามีความใสสะอาด”

นี่คือคำพูดที่ โค้ชโชค ได้ทิ้งท้ายเอาไว้ เพราะฟุตบอล ที่เป็นลูกกลม ๆ แม้วางไว้อยู่นิ่ง ๆ มันก็สามารถหมุน เปลี่ยนไปมาได้แค่มี สิ่งเร้าเพียงนิดหน่อย แน่นอนว่ามันย่อมหมายถึง ความเปลี่ยนแปลง ที่จะเกิดขึ้นตามเทรน

และ ความนิยมของคนยุคใหม่ หากมองในมุมกว้าง ก็จะเห็นว่าฟุตบอลในยุคนี้ ดูสนุกขึ้นกว่าในอดีต เพราะบ้านเราได้เปิดใจ ที่จะรับสิ่งใหม่ ๆ เข้ามา มีสนามที่มาตรฐานขึ้น มีเทคโนโลยี เข้ามาช่วยในการตัดสิน แต่ถ้าจะดีกว่านี้

หากสามารถ ทำให้กติกาและการแข่งขัน ฟุตบอลมีความใสสะอาด มากยิ่งขึ้น ปัจจุบันโค้ชง้วน สุรชัย อดีตกองกลางตัวรุก ของทัพช้างศึกไทย รับหน้าที่เป็น ผู้อำนวยการ สโมสรของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และในช่วงที่ เป็นการ

เปลี่ยนผ่านกุนซือ เขาก็สามารถมารับหน้าที่ เป็นกุนซือขัดตาทัพ ได้อย่างคล่องแคล่ว และพากระต่ายแก้ว ทำผลงานได้ดีทีเดียว  แต่เชื่อหรือไม่ว่าความหวังสูงสุด ของโค้ชสุรชัยไม่ใช่เพียง การพาทีมในสังกัด คว้าแชมป์ แต่คือ

การสร้างมาตรฐานใหม่ ให้กับวงการลูกหนังไทยนั่นเอง