โค้ชแบน โค้ชทีมชาติไทย พาไปรู้จักกับ โค้ช ธชตวัน ศรีปาน จากเด็กเรียนสู่วงการค้าแข้ง
โค้ชแบน อีกหนึ่งตำนานของ วงการฟุตบอลไทย นอกจาก ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แล้ว ก็ยังมี โค้ชแบน ตะวัน ศรีปาน หรือ ปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็น ธชตวัน ศรีปาน นักเตะตำนานแข้งช้างศึกไทย ที่ยังคงโลดแล่นอยู่ ในวงการลูกหนัง ได้อย่างงดงาม ปัจจุบันรับหน้าที่ เป็นผู้ฝึกสอน ในสโมสรฟุตบอล ในไทยลีก1 แต่เชื่อหรือไม่ว่า ก่อนที่จะมา
เป็น นักเตะชื่อดัง และ เป็นผู้ฝึกซ้อนชื่อดัง ในวงการฟุตบอลไทย อันที่จริงเขาเป็น เด็กเรียนมาก่อน แล้วเส้นทาง การค้าแข้งของ โค้ชทีมชาติไทยชุดใหญ่ ในดวงใจของคนไทยนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไรนั้น เราจะพาคุณไปหาคำตอบ พร้อมกันเลย อนิเมะ
โค้ชแบน จุดประกายความฝันจากหนังสือการ์ตูน
เขาคือตำนาน เจ้าของเบอร์ 10 นักเตะดีเด่น ที่ได้รับรางวัลมากมาย แต่ใครจะรู้ว่า ในความเป็นจริงแล้ว ตะวัน ศรีปาน เป็นคนที่ขี้อาย ไม่ค่อยมั่นใจ ในตัวเอง จึงไม่ค่อยพูดคุยมีปฏิสัมพันธ์ กับ คนรอบข้างมากนัก แต่การ
จุดประกาย ความฝันในการเป็นนักเตะ มาจากหนังสือการ์ตูน ที่คุณพ่อเขาชอบอ่าน แล้วนำมาเติมเต็ม จินตนาการของตัวเอง แต่นั่นก็เป็นเพียง จินตนาการในวัยเด็ก เพราะหลังจากนั้น เขาก็ไม่ได้จริงจัง ในการฝึกฝน
ฟุตบอลเท่าใดนัก จนกระทั่งเข้าสู่ ช่วงวัยมัธยมต้น ได้เล่นฟุตบอล ของโรงเรียน ในตำแหน่งกองหลัง ซึ่งหลังจากที่ทีมได้แชมป์ ก็ทำให้เขารู้สึก มั่นใจในตัวเอง และ รู้สึกว่าการเล่นฟุตบอลนี้ มันมีเสน่ห์ โค้ชง้วน
นักเตะสุดเจียมตัว คิดว่าตัวเองต้องพัฒนาไปเรื่อย ๆ
แต่ด้วยนิสัยส่วนตัวนั้น เป็นผู้ที่ไม่ค่อยชอบ การแข่งขัน ไม่ค่อยชอบคาดหวัง หรือ ตั้งเป้าอะไรที่สูงเกินไป อาจจะดูเอื่อยเฉื่อย ที่ไม่กระตือรือร้น ในการขายไขว่คว้า ซึ่งสถานการณ์ ในตอนนั้นตะวัน ศรีปาน คิดว่าตัวเอง ยัง
ไม่เก่งพอที่จะเป็นกำลังหลัก ในการแข่งขันฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็นระดับใดก็ตาม เขาคิดว่าตัวเอง ต้องพัฒนาให้ดีกว่านี้ นี่แหละที่ทำให้เขา ถูกคัดเลือกให้เป็น กัปตันทีมฟุตบอลหลาย ๆ ทีม เพราะเป็นคนที่ใจเย็น UFABET
โค้ชแบน เส้นทางการเข้าสู่วงการฟุตบอล
เส้นทางการเข้าสู่ วงการฟุตบอล เป็นอะไรที่เหนือคาด เพราะเขาไม่เคย ได้ลงสนามฝึกซ้อม แบบเป็นจริงเป็นจัง เหมือนกับนักเตะคนอื่น ๆ แต่คนมีพรสวรรค์ ต่อให้เล่นที่ สนามหญ้าหน้าบ้าน ก็ยังมีคนเห็นแวว สุดท้ายจึงถูกชักชวน ให้ไปเล่นฟุตบอล แบบเป็นจริงเป็นจัง เข้าไปคัดตัว ในระดับอาชีวะที่สนับสนุน และ ส่งเสริมเรื่องฟุตบอล
ในขณะนั้น ซึ่งเจ้าตัวได้ เลือกลงตำแหน่งกองกลาง เน้นการเลี้ยงฟุตบอลเป็นหลัก และ ทุกอย่างที่เป็นสกิลในสนามนั้น ก็เกิดจากการเรียนรู้ด้วยตัวเอง เพราะในขณะนั้น ต้องยอมรับว่าวงการฟุตบอลไทย ค่อนข้างล้าหลัง เป็นนักเตะที่ต้องคอยช่วยเหลือ และ ยกระดับการเล่นของตัวเอง ให้มีเอกลักษณ์ เพราะผู้ฝึกสอน จะมีเพียงการ
สอนส่งบอล แปบอล ไม่มีการสอนแทคติกต่าง ๆ ให้กับนักเตะ นักเตะที่โดดเด่นในขณะนั้น จึงล้วนเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ และ แสวงหาด้วยตัวเองทั้งสิ้น วริทธิ์ธยาน์ เอมะศิริ
ไม่คิดเป็นนักเตะทีมชาติ เน้นโฟกัสเรื่องเรียน
แม้จะชื่นชอบ ในการเล่นกีฬา แต่ตัวของโค้ชตะวัน ไม่เคยคิดเลยว่า ตัวเองจะสามารถก้าวขึ้นมา เป็นหนึ่งในนักเตะทีมชาติ เพราะในขณะนั้น โฟกัสไปยังการเรียน เพียงแค่อย่างเดียว แต่การเล่นกีฬา ก็เล่นเพื่อผ่อนคลายความเครียด เล่นเพียงเพราะต้องการ ได้ร่วมสนุกกับเพื่อน ๆ เท่านั้น ในช่วงวัยเรียน จึงได้รับโควต้า การเรียนต่อ
มากมาย แต่ในขณะเดียวกัน ด้านการแข่งขันฟุตบอล ก็ยังทำได้ดีควบคู่กันไป เพราะในอดีตผู้เล่นกีฬา ก็มักจะเน้นกีฬาไปเลย ไม่ค่อยสนใจในการเรียน เพราะต้องเลือกเอาอย่างใด อย่างหนึ่ง แต่สำหรับโค้ชตะวันแล้ว เขาสามารถทำทั้งสองอย่าง ได้ดีทั้งคู่ แถมยังโดดเด่นอีกด้วย โค้ชโอ่ง
เน้นเรียนรู้ด้วยตนเอง ตกตะกอนเป็นแทกติกใหม่ ๆ ที่นำมาใช้ในไทยลีก
หนึ่งในโค้ชที่ประสบความสำเร็จ ในการฝึกซ้อมฟุตบอล ในทีมไทยลีก 1 ต้องมีชื่อของ โค้ชแบน อย่างแน่นอน โดยหลักการสอน และ แทคติกต่าง ๆ ที่นำมาใช้ในทีม ล้วนมาจากการฝึกฝนด้วยตัวเอง จนเกิดการตกตะกอน ทางความคิดทั้งสิ้น เส้นทางการเป็นนักฟุตบอลของ โค้ชตะวันไม่ได้หวือหวา เท่าไหร่นัก เขารักในการเล่นฟุตบอล
แต่ก็ไม่ได้แสวงหา หรือ ไปคัดเลือกเป็นนักเตะ ตามรายการต่าง ๆ เพราะมักจะคิดเสมอว่า ตัวเองยังไม่เก่งพอ เส้นทางการเป็น นักฟุตบอล มืออาชีพ จึงเกิดจาก การชักชวนของเพื่อนทั้งสิ้น เพื่อน ๆ มั่นใจในฝีเท้าของเขา มั่นใจในสกิลการเล่นของเขา
โค้ชแบน สู่เส้นทางการเป็นโค้ชในสโมสรชั้นนำ
ส่วนฉายา “สุภาพบุรุษลูกหนัง” ก็มาจากบุคลิกส่วนตัว ของโค้ชตะวัน ที่ในขณะนั้น แม้จะเป็นนักเตะที่ขึ้นชื่อ และ เป็นที่ชื่นชอบของ แฟนบอลชาวไทย เขาก็ยังคงวางตัวได้สุขุม ไม่เคยที่จะโวยวายหรือโทษ เพื่อนร่วมทีม แม้ในการแข่งขันเกมนั้น ผลจะไม่เป็นไปตามคาด เขาพร้อมที่จะแสดง ความยินดีกับคู่แข่งเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ใน หรือ
นอกสนาม แม้จะไม่ค่อยพูด แต่ใบหน้าก็ยังเปื้อนยิ้ม แล ะเป็นกันเองกับแฟนบอล ทุกครั้งที่ได้ลงสนาม ไม่ว่าจะเป็นสนามใดก็ตาม เขามักจะสร้างโอกาส ในการยิงประตูได้เสมอ จากนั้นจึงได้แขวนสตั๊ด และ เป็นผู้ฝึกสอนให้กับ บีอีซีเทโรศาสน เมื่อปี 2552 ผ่านการคุมทีม มาทั้งสิ้น 9 ทีม เป็นตำนานนักเตะที่ได้รับ รางวัลมากมาย
ทั้งรางวัลนักเตะผู้สร้างชื่อเสียง ให้กับประเทศ นักกีฬาดีเด่น รวมถึงรางวัลผู้ฝึกสอน ยอดเยี่ยมอีกด้วย ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการ ฝ่ายเทคนิคของสโมสร ทรู แบ็งคอก ยูไนเต็ด ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน
เอาความเงียบเข้าสยบ พูดน้อย แต่เน้นทำ
บุคลิกโดยรวมของ โค้ชตะวัน เป็นคนที่ไม่ค่อยพูด เป็นนักเตะที่พูดน้อย เมื่อมานั่งอยู่ใน ตำแหน่งกุนซือ จึงกลายเป็นกุนซือ ที่ดูน่าเกรงขาม เพราะเขาดูเหมือนจะไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์ กับ บุคคลรอบข้าง เหมือนจะเข้าถึงยาก
แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย เพียงแต่เป็น ผู้ที่พูดคุยไม่เก่ง แต่นี่มันก็เป็น ผลดีต่อเจ้าตัว เพราะทำให้หลายคนติดภาพ จำว่าเขาเป็นนักเตะ และ เป็นโค้ชที่มีบุคลิก ๅ เคร่งครึ้มน่าเกรงขาม ทำให้ฝ่ายตรงข้าม อ่านแนวคิด และ การวางแผนไม่ขาด
ผู้ช่วยโค้ชทีมชาติไทย ตะวัน หรือ ธชตะวัน ศรีปาน จะมีสไตล์การคุมทีม ด้วยการประเมินข้อดีของคู่แข่ง แล้วนำมาเปรียบเทียบ เพื่อหาช่องโหว่ของทีมตัวเอง ถือเป็นกุนซือที่นักฟุตบอล ต่างให้การยอมรับ เพราะ
นอกจากเขา จะเป็นนักเตะในตํานาน ขวัญใจชาวไทยแล้ว ก็ยังวางตัวดี เป็นแบบอย่างให้กับ นักเตะรุ่นน้องสมกับสมญานาม “สุภาพบุรุษลูกหนัง” ตัวจริง
